Report VS Dashboard มันต่างกันยังไงละ

หลายคนรู้จัก Report อยู่แล้วมันคืออะไร บางคนถึงขนาดนอนฝันเห็นเป็น report เลยเพราะงานต้องอยู่กับมันทั้งวันทั้งคืนโดยเฉพาะสิ้นเดือนหรือไตรมาส เพราะต้องรวบรวมข้อมูลที่ผ่านมา มานำเสนอให้ผู้บริหารในรูปแบบต่าง ๆ ที่ให้ผู้บริหารได้เห็นภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจ เมื่อถึงเวลาต้องพรีเซ็นก็ต้องใช้เวลานานเพราะต้องอธิบายรายงานที่มีแต่กราฟต่าง ๆ ให้เขาเข้าใจ ผู้บริหารบางคนก็เบื่อที่ต้องนั่งฟังอะไรนาน ๆ คนพูดก็เบื่อที่ต้องมาอธิบายอะไรยาว ๆ

สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะ Report ที่เรานำเสนอเป็นเพียงรายงานธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้มีการวิเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกราฟหรือตาราง ล้วนแล้วแต่เป็นเพียง Data ที่ถูกรวบรวมมาแล้วมาสรุปเป็นรายงานเท่านั้น ส่วนบทวิเคราะห์จะถูกนำเสนอก็ตอนเราออกไปพรีเซ็นนี่ละ  บางทีตอนที่พรีเซ็น ผู้บริหารก็มองหน้าเรา จากนั้นก็มองไปที่ report เพื่อดูว่าเราพูดถึงส่วนไหนของ report แล้วก็กลับมามองหน้าเราอีกรอบ กลับไปกลับมา แทนที่จะเข้าใจสิ่งที่เรากำลังพรีเซ็นกลับงงมากกว่าเดิมอีก

มาดูกันอีกฝั่งหนึ่ง "Dashboard"  คู่แข่งคนสำคัญของ report ที่น้อยคนจะรู้จักว่ามันคืออะไร แต่ถ้ารู้จักมันแล้ว Fight ระหว่าง Dashboard VS Report ยังไงๆ Dashboard ก็ชนะขาดเสมอ เรามาดูกันดีกว่าว่า Dashboard มันมีอะไรดีถึงได้เอาชนะ report ได้

ไม่ว่าจะเป็น Dashboard หรือ report ต่างก็มีกราฟมีตารางตัวเลขเหมือนกันและมีเป้าหมายเหมือนกันคือ นำเสนอผลการดำเนินงานของธุรกิจ แต่จุดเดียวที่ Dashboard มีเหนือกว่าก็คือ บทวิเคราะห์มันถูกฝังอยู่ใน Dashboard แล้วนั่นเอง ซึ่งมันทำให้คนอ่านสามารถเข้าใจสถานการณ์ ณ ขณะนั้นว่าเป็นอย่างไรได้ทันทีจากกราฟหรือตารางที่เห็น โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งวิเคราะห์กันอีกแล้ว ยกตัวอย่างเช่น









จากภาพ เราชอบแบบไหนมากกว่ากัน? ผู้บริหารบางคนใจร้อนที่จะต้องรอวันที่จะฟังพรีเซ็นสรุป ก็อยากจะได้รายงาน ที่เขาสามารถเปิดเองได้และเข้าใจได้ทันที โดยที่ไม่ต้องให้ใครมานั่งอธิบายรายงานให้ฟัง ผู้บริหารต้องการรู้ข้อมูลหลัก ๆ ของธุรกิจแล้วเขาสามารถจะ Action ยังไงต่อได้หลังจากรู้ข้อมูลเหล่านี้  ซึ่ง report ขาดความสามารถแบบนี้ เพราะถ้าเป็น report เขาต้องมาคิดพิจารณา ทบทวนว่าข้อมูลในกราฟมันส่งผลยังไงกับธุรกิจ  แต่ Dashbaord มันคือการนำเสนอที่ถูกวิเคราะห์มาให้แล้ว ผู้บริหารจะชอบแบบนี้มากกว่า





Dashboard สำคัญไฉน

ถ้าท่านเป็นผู้บริหารขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง หรือท่านเป็นเจ้าของกิจการไม่ว่าจะขนาดใดก็ตาม สิ่งที่ท่านอยากจะรู้ที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือ ธุรกิจของเราตอนนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง เช่น สินค้าขายดีหรือไม่ ,ลูกค้าเยอะไหม, ทำแล้วคุ้มกับต้นทุนที่ต้องจ่ายไหม, รายได้ที่ได้รับมากกว่าเดือนที่แล้วหรือปีที่แล้วไหม ฯลฯ


ซึ่งแน่นอนสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ของท่านได้ก็คือ Report หรือรายงานที่วัดผลการดำเนินงานของท่าน (อย่าเพิ่งเบื่อกับคำว่า Report นะครัช)  และ Report แบบนี้จะต้องไม่ธรรมดา มันจะต้องเป็น Report ที่ถูกออกแบบอย่างปราณีตทั้งข้อมูล และรูปแบบการนำเสนอข้อมูลเช่น กราฟต่าง ๆ   ซึ่งผู้บริหารเมื่อได้เจอ Report แบบนี้จะต้องเข้าใจได้ทันทีภายใน 3 วิ ว่าตอนนี้ศักยภาพของธุรกิจตัวเองเป็นแบบไหน เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างถูกต้อง รวมเร็ว แม่นยำ ลดความเสี่ยงและการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

เราเรียก Report ดังกล่าวนี้ว่า "Dashboard" นั่นเอง พูดอีกอย่างก็คือ Dashboard คือหน้ากระดาษ 1 หน้าที่เป็นจุดรวมของข้อมูลสรุปที่สำคัญที่สุดของธุรกิจในภาพกว้าง ๆ ไม่ลงรายละเอียด ยกตัวอย่างเช่น Dashboard ของ Sales ที่จะมีข้อมูลที่เป็นยอดขายรวมทั้งหมดของเดือนปัจจุบัน เทียบกับเดือนที่แล้ว , มีข้อมูลสรุปว่าใครคือ Top Sales, สินค้าขายดีที่สุด 10 อันดับแรกของเดือนนี้คืออะไร, จังหวัดใดมีลูกค้าซื้อสินค้ามากที่สุดเป็นต้น

ดังนั้นถ้าองค์กรใดยังไม่มี Dashboard ใช้องค์กรนั้นจะต้องเสียเวลาอย่างมากในการทำรายงานในแต่ละส่วนหรือแต่ละแผนก แล้วรวบรวมมานำเสนอให้ผู้บริหาร  รวมทั้งรูปแบบหรือ format ก็ดูไม่สวยงาม, ไม่อยู่ในรูปแบบเดียวกัน, อ่านแล้วเข้าใจยาก ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจก็จะล่าช้าไปด้วย เกิดการสูญเสียต้นทุนทางธุรกิจถ้าตัดสินใจช้า

ลองศึกษากันดูครับ แล้วจะพบว่า Dashboard เป็นอะไรที่จำเป็นมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโต เพราะธุรกิจที่จะโตได้จะต้องเพิ่ง Data เป็นรากฐานที่สำคัญ ส่วน Dashboard จะนำ Data มาแสดงในรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะความต้องการที่จะวัดผลทางธุรกิจ